โครงการฟื้นฟูชีวิตของรัฐบาลฟื้นชีวิตคนลำมูนได้หรือ
ในวันที่
๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๖
รัฐบาลได้มีมติครม.เกี่ยวกับแผนปฏิบัติงานภายหลังการเปิดเขื่อน
๔ เดือน ดังนี้
เรื่องอนุมัติบรรจุงานโครงการชลประทานปากมูล
คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการชลประทานตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอและมีมติดังนี้
๑.เห็นชอบการลงนามของกรมประมงและกระทรวงพลังงาน(การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย)ในบันทึก
ความร่วมมือระหว่างกันเกี่ยวกับภาระกิจโครงการชลประทานปากมูล
รวมทั้งการกำหนดกรอบแผนปฏิบัติการและงบประมาณเพื่อดำเนินการโครงการศึกษาวิจัยพัฒนาการประมงในลำน้ำมูลตอนล่างประจำปี
๒๕๔๖
๒.อนุมัติบรรจุงานโครงการชลประทานปากมูลตามกรอบแผนงานที่ได้เสอนในระยะเวลาดำเนินการ
๖ ปี โดยแบ่งเป็น ๓ ระยะ
มีพื้นที่โครงการชลประทานเพิ่มขึ้น
๑๕๕,๔๔๐ ไร่
๓.สำหรับวงเงินงบประมาณในการดำเนินการในปี
๒๕๔๖
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำความตกลงรายละเอียดในการขอใช้งบกลางกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง
โดยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของโครงการให้ชัดเจน
สำหรับวงเงินงบประมาณในปีต่อไปของโครงการ
ให้ใช้งบปกติของกรมชลประทาน
โดยให้กรมชลประทานขอตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป
๔.ส่วนการขอสนับสนุนค่าใช้จ่ายกระแสไฟฟ้าในการสูบน้ำให้แก่ราษฎรได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อนปากมูล
ให้ใช้หลักเกณฑ์ปกติที่คณะรัฐมนตรีได้กำหนดถือปฏิบัติทั่วไป
ทั้งนี้
กรอบแผนปฏิบัติการและงบประมาณเพื่อดำเนินการโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาการประมงในลำน้ำมูลตอนล่าง
ประจำปี ๒๕๔๖
ที่กรมประมงและกระทรวงพลังงาน(การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย)
ได้ลงนามร่วมกันมีรายละเอียดดังนี้
1. ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับและติดตามโครงการประกอบด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเป็นประธาน
มีผู้แทนจากส่วนราชการต่างๆ
ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
กรมประมง กรมชลประทาน
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
นายอำเภอโขงเจียม สิรินธร
พิบูลมังสาหาร
ผู้แทนเกษตรกรในพื้นที่ ต.โขงเจียม
ต.หนองแสงใหญ่ อ.โขงเจียม ต.คำเขื่อนแก้ว
ต.คันไร่ อ.สิรินธร ต.พิบูลมังสาหาร
ต.ทรายมูล ต.กุดชมภู ต.โพธิ์ศรี
อ.พิบูลมังสาหาร ตำบลละ ๒ คน
เป็นกรรมการ
2. ผลิตพันธุ์สัตว์น้ำชนิดต่างๆ
เพื่อเพิ่มผลผลิตและความหลากหลายของพันธุ์สัตว์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนปากมูล
รวมจำนวน ๕๐.๕ ล้านตัว
งบประมาณ ๑๔,๒๑๗,๕๐๐ บาท
3. ช่วยเหลือเกษตรกรประมงผู้ได้รับผลกระทบจำนวน
๖,๑๗๖ ราย รายละไม่เกิน ๕,๐๐๐
บาท รวมวงเงินงบประมาณ ๓๐,๘๘๐,๐๐๐
บาท
โดยเกษตรกรประมงสามารถเลือกได้ใน
๒ แนวทาง คือ
1.1 ขอรับการสนับสนุนเพื่อเปลี่ยนเครื่องมือประมงให้เหมาะสมกับสภาพสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำ
2.2 ขอกู้เงินเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมอื่นๆ
ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับธนาคารเพื่อกการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจัดหาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อแบ่งเบาภาระ
ดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
เฉพาะในปีแรก
4. ฝึกอบรมเกษตรกรประมงจำนวน
๒,๓๐๐ ราย
ให้มีความรู้ในการใช้เครื่องมือจับสัตว์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งอบรมการแปรรูปสัตว์น้ำเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
โดยมีวงเงินงบประมาณ ๑,๑๐๐,๐๐๐
บาท
5. กรมประมงร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยทำการศึกษาวิจัยเพื่อติดตามสถานภาพของทรัพยากร
และการทำประมงเพื่อวางแนวทางการบริหารจัดการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืน
โดยมีวงเงินงบประมาณ ๔,๐๐๐,๐๐๐
บาท
6. มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ดำเนินการติดตามและประเมินผลโครงการฯ
ภายในวงเงินงบประมาณ ๑,๐๐๐,๐๐๐
บาท
สำหรับโครงการชลประทานปากมูลนั้น
กรมชลประทานได้พิจารณาสภาพภูมิประเทศประกอบกับแผนการพัฒนา
โครงการชลประทานสูบน้ำด้วยไฟฟ้าของกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน(ปัจจุบันสังกัดกรมชลประทาน)
มีความเห็นว่า
การจัดทำคลองชลประทานส่งน้ำเพื่อใช้ประโยชน์จากเขื่อนปากมูล
จำเป็นต้องใช้วิธีการสูบน้ำด้วยไฟฟ้าจากแม่น้ำมูนและลำน้ำสาขาเข้าสู่ระบบคลองชลประทาน
ซึ่งมีพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการชลประทานเพิ่มขึ้น
๑๕๕,๔๔๐ ไร่
และมีการใช้น้ำเพิ่มขึ้นปีละ
๓๑.๕๕ ล้านลูกบาศก์เมตร
มีระยะเวลาดำเนินการ ๖ ปี
แบ่งเป็น ๓ ระยะได้แก่
ระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง
และระยะยาว
ในวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น
๘๐๓.๒๐ ล้านบาท
โดยมีรายละเอียดโครงการฯดังนี้
1. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ
1.1 เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตด้านการเกษตรของพื้นที่บริเวณสองฝั่งของแม่น้ำมูลตอนล่างและ
สาขาซึ่งมีพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำในลำน้ำได้มีโอกาสใช้น้ำ
1.2 เพื่อเป็นหลักประกันในการประกอบอาชีพและดำรงชีวิตได้ตามความจำเป็นเหมาะสม
2. แหล่งน้ำสำหรับพื้นที่โครงการ
แหล่งน้ำที่ใช้เป็นปริมาณน้ำต้นทุนสำหรับพื้นที่โครงการ
ได้แก่
แม่น้ำมูลตอนล่างและลำน้ำสาขา
โดยการสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบคลองชลประทานและ
อาคารประกอบเพื่อกระจายน้ำไปยังพื้นที่การเกษตรอย่างทั่วถึง
3. รายละเอียดโครงการ
โครงการชลประทานปากมูล
มีกรอบแผนการดำเนินงานเป็น
๓ ระยะ ได้แก่