คณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล(ชชช.)
๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
เรื่อง ขอให้เปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูล
เรียน พลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน ผอ.รมน./ผอ.ศจพ.
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๐ ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รักษาระดับน้ำในเขื่อนปากมูลไว้ที่ประมาณ ๑๐๖-๑๐๘ เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) นั้น เป็นการตัดสินใจที่ไม่ชอบด้วยเหตุผล ๒ ประการคือ
๑. ไม่ได้ใช้ข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลจากพื้นที่เป็นฐานในการตัดสินใจ
มติคณะรัฐมนตรีซึ่งให้รักษาระดับน้ำที่ ๑๐๖-๑๐๘ ม.รทก. โดยทางปฎิบัติหมายถึง การปิดเขื่อนปากมูลอย่างถาวร เนื่องจากระดับน้ำ ๑๐๘ ม.รทก. คือระดับเก็บน้ำของเขื่อนปากมูล เมื่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตใช้น้ำเพื่อปั่นไฟ การปิดเขื่อนปากมูลสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศในระยะยาว และส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประจำวันของชาวบ้านจำนวนมาก งานวิชาการหลายฉบับยืนยันได้ถึงผลกระทบดังกล่าว
งานศึกษาผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูล และผลการทดลองเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเท่าที่รวบรวมได้มี ๒๒ ชิ้น ทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ คณะทำงานกลั่นกรองผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับกรณีเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้รับแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๔๕ ได้จัดทำรายงานสรุปผลการศึกษาเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๔๖ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า วิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยแม่น้ำมูลได้รับผลกระทบอย่างมากจากการสร้างเขื่อนปากมูล และเมื่อมีการทดลองเปิดประตูระบายน้ำทั้ง ๘ บาน สุดบาน วิถีชีวิตของชาวบ้านเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากระบบนิเวศได้ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น
มติ ครม. ๑๒ มิถุนายน เป็นเสมือนการปิดเขื่อนปากมูล โดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลจากพื้นที่แต่อย่างใด
๒. ไม่ได้คำนึงถึงมติ ครม.ที่ผ่านมา และความคิดเห็นตลอดจนข้อเสนอแนะของคณะกรรมการซึ่งเป็นกลไกการทำงานที่รัฐบาลตั้งขึ้นเพื่อพิจารณากรณีเขื่อนปากมูลเป็นการเฉพาะ
ตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๕๔๔ คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลหลายชุดได้พิจารณากรณีเขื่อนปากมูล ตลอดจนได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล อีกหลายชุด
มติ ครม. และ ความเห็นของคณะกรรมการที่สำคัญมีดังนี้
๒.๑. มติครม. เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๔๔ ให้เปิดประตูระบายน้ำเป็นเวลา ๔ เดือน และให้ดำเนินการศึกษาลุ่มน้ำธรรมชาติจากการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง ๘ บาน
๒.๒. สำนักเลขาธิการได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดทำโครงการศึกษาวิจัยแนวทางการฟื้นฟูระบบนิเวศน์วิถีชีวิตและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูน ในระหว่างทำการศึกษา ได้มีมติครม.เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๔๔ ขยายการเปิดประตูระบายน้ำในครบ ๑ ปี เพื่อให้การศึกษาได้ครบรอบวัฎจักรของปลาและการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์ตามหลักวิชาการ
๒.๓. ภายหลังการศึกษาโดย ม.อุบล ได้มีข้อเสนอให้เปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูนตลอดปี แต่มติครม. เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๕ เห็นชอบให้เปิดประตูระบายน้ำปีละ ๔ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ถึง ๓๑ ตุลาคมของทุกปี
๒.๔. มติครม. วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๗ ขยับมาให้เปิดวันที่ ๑ พฤษภาคมของทุกปี เพื่อให้ปลาได้อพยพขึ้นมาวางไข่ได้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่เหมาะสม และมีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาทรัพยากรและวิถีชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล ซึ่งมีลักษณะภาคี โดยประกอบไปด้วยผู้แทนหน่วยราชการ นักวิชาการ และตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ (ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช อดีตประธานบอร์ดกฟผ. เคยเป็นประธาน และปัจจุบันประธานคณะกรรมการคือ นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เพื่อพิจารณาการเปิดประตูระบายน้ำ และดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวบ้าน
๒.๕.ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาทรัพยากรและวิถีชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูน วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๐ มีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรี ตัดสินใจเปิดประตูระบายน้ำ เป็น ๒ ทางเลือกคือ
ทางเลือกที่ ๑.ให้เปิดประตูระบายน้ำเร็วที่สุด โดยเริ่มลดระดับน้ำตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๐ เป็นต้นไป และให้เปิดประตูระบายน้ำสูงสุดภายในวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๐
ทางเลือกที่ ๒.ให้เริ่มระบายน้ำและเริ่มลดระดับน้ำตั้งแต่วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๐ เป็นต้นไป และให้เปิดประตูระบายน้ำสูงสุดภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๐
ต่อมากระทรวงพลังงานเสนอ ครม. ให้มีมติเปิดประตูระบายน้ำวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๐และ เปิดสุดบานในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๐
๒.๖. ภายใต้กลไก กอ.รมน. ได้มีการประชุมที่เป็นทางการ ๒ ครั้ง คือ ในวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ณ หอประชุมกองทัพบก และวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๐ ณ ที่ทำการเขื่อนสิรินธร และข้อเสนอได้นำไปสู่การพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน ให้รักษาระดับน้ำในแม่น้ำมูนไว้ที่ประมาณ ๑๐๖-๑๐๘ ม.รทก.
มติครม.วันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๐ เป็นการเปลี่ยนมติคณะรัฐมนตรี ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๐ โดยไม่มีเหตุผลประกอบที่ชัดเจน และไม่ได้คำนึงถึงมติครม.และความคิดเห็นของคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ผ่านมา
จากเหตุผล ๒ ประการดังกล่าวข้างต้น คณะนักวิชาการและผู้ที่เห็นความสำคัญของการใช้ข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลจากพื้นที่สนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายของรัฐ ดังมีรายนามท้ายหนังสือนี้ จึงขอกราบเรียนให้ พลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน ในฐานะ ผอ.รมน./ผอ.ศจพ. ดำเนินการให้เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลเพื่อแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านกรณีปัญหาเขื่อนปากมูลโดยเร็ว
ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง
(รศ.สุริชัย หวันแก้ว)
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
(นายศุภวิทย์ เปี่ยมพงศ์สานต์)
อดีตหัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(อาจารย์ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ)
ประธานมูลนิธิเพื่อนป่า
(ดร.นลินี ตันธุวนิตย์)
คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
(ดร.ชวลิต วิทยานนท์)
กองทุนสัตว์ป่าสากล
(นายสุทธิชัย เอี่ยมเจริญยิ่ง)
ประธานเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
(อาจารย์ชัยพันธุ์ ประภาสะวัต)
ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อสิทธิชุมชน
(นายสมเกียรติ พ้นภัย)
(คณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล(ชชช.))
(นายทองเจริญ สีหาธรรม)
คณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล(ชชช.)
(นางสมปอง เวียงจันทร์)
คณะกรรมการชาวบ้านเพื่อฟื้นฟูชีวิตชุมชนลุ่มน้ำมูล(ชชช.) |